การครอบแก้วและการเดินแก้ว หลักการคล้ายๆกัน ก็คือการนำแก้วที่ใช้ทำหัตถการครอบแก้ว มาเผาอ๊อกซิเจนในแก้วจนหมด จนภายในแก้วเป็นสุญญากาศ แล้วครอบลงไปบนบริเวณที่ต้องการทำการรักษา ส่วนการเดินแก้ว ก่อนจะทำการเดินแก้ว จะมีการทาน้ำมันทาผิวลงไปยังบริเวณที่ต้องการทำการรักษาก่อน เพื่อลดการเสียดสีและการบาดเจ็บของผิวหนัง หลังจากนั้นหมอจะใช้มือดันแก้วไปยังพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความที่ใต้แก้วเป็นภาวะสุญญากาศ ทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อถูกดูดติดขึ้นมา ระหว่างที่เดินแก้ว เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังจะแตก กล้ามเนื้อจะถูกดูดขึ้นมาด้วย การที่ทำให้เส้นเลือดฝอยและกล้ามเนื้อถูกดูดขึ้นมาจนบาดเจ็บเล็กน้อย จะทำให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมส่วนที่บาดเจ็บ เลือดไหลเวียนมายังจุดที่เส้นเลือดฝอยแตกมากขึ้น ทำให้เกิดการถ่ายเทของเสีย เช่น พวกกรดต่างๆที่ถูกปล่อยออกมาจากกล้ามเนื้อ หลังจากรักษาโดยการครอบแก้วหรือเดินแก้วเสร็จใหม่ๆ 1-2 วัน คนไข้อาจจะรู้สึกระบมบ้าง และมีรอยเส้นเลือดฝอยแตก แต่สีที่แสดงออกมาในคนไข้แต่ละคนมักจะต่างกัน ภายใน 1-2 สัปดาห์ก็จะถูกร่างกายดูดซึมและจางไปเอง
หลักการของการครอบแก้วและการเดินแก้วนั้นไม่ต่างกันมาก แต่การเดินแก้วจะทำให้ผิวหนังถูกดูดขึ้นมาและถูกการกระตุ้นมากกว่า ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการทำหัตถการเพียง 5-8 นาทีเท่านั้น หากทำนานเกินไป จะทำให้ผิวหนังบาดเจ็บได้